อาการหลักของโรคเครียดลงกระเพาะคืออะไร?

• ปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ ตอนท้องว่าง. อาการปวดมักเกิดขึ้นเมื่อกระเพาะอาหารว่าง.
• เสียดหน้าอก อาหารไม่ย่อย. คุณอาจรู้สึกไม่สบายบริเวณหน้าอกและมีปัญหาในการย่อยอาหาร.
• รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน. อาการคลื่นไส้และอาจมีอาเจียนร่วมด้วยเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้.
• แน่นท้อง ท้องอืด เรอเหม็นเปรี้ยว. คุณอาจรู้สึกอึดอัด แน่นท้อง มีลมในท้องมาก และอาจมีอาการเรอที่มีกลิ่นเปรี้ยว.
• นอนไม่หลับ นอนหลับไม่สนิท. ความเครียดสามารถส่งผลต่อการนอนหลับ ทำให้หลับยากหรือหลับไม่สนิท.

นอกจากอาการเหล่านี้แล้ว ความเครียดที่สะสมยังเป็นตัวกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งน้ำย่อยออกมามากกว่าปกติ. ความเครียดอาจทำให้การทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้หยุดชะงักลงได้. อาการของโรคกระเพาะอาหารโดยทั่วไป ไม่ว่าจะมีแผลหรือไม่ก็ตาม ก็มีความคล้ายคลึงกัน โดยผู้ป่วยอาจรู้สึก ปวดจุกแน่นใต้ลิ้นปี่ หรือบริเวณเหนือสะดือ. อาการเหล่านี้มักเป็นๆ หายๆ และมักเกิดขึ้นในเวลาท้องว่างหรือเวลาหิว. อาการปวดหรือแน่นท้องอาจดีขึ้นหลังทานอาหาร หรือได้รับยาลดกรด. บางรายอาจไม่มีอาการปวดท้อง แต่จะมีอาการ แน่นท้องหรือรู้สึกไม่สบายในท้อง มีลมมากในท้อง ต้องเรอหรือผายลม จึงจะรู้สึกดีขึ้น. นอกจากนี้ ยังอาจมี คลื่นไส้อาเจียน หรืออาการแสบร้อนยอดอก ร่วมด้วย.

ดังนั้น “เครียดลงกระเพาะ” จึงมีอาการแสดงที่หลากหลายและรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน. หากคุณมีอาการเหล่านี้และสงสัยว่าเกิดจากความเครียด ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อลดความเครียด. หากอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม.

ปัจจัยใดบ้างที่กระตุ้นให้เกิดโรคเครียดลงกระเพาะอาหาร?

ปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้เกิดโรคเครียดลงกระเพาะอาหารคือ ความเครียด ที่สะสม โดยความเครียดนี้มีกลไกการทำงานที่ส่งผลต่อกระเพาะอาหารดังนี้:

• ความเครียดที่สะสมในแต่ละวัน เป็นตัวการที่ไปกระตุ้นให้กระเพาะหลั่งน้ำย่อยออกมามากกว่าปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้โรคกระเพาะกำเริบ
• ระบบประสาทอัตโนมัติจะถูกกระตุ้น ทำให้ต่อมหมวกไตหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีน
• ต่อมไทรอยด์จะหลั่งฮอร์โมนเร่งปฏิกิริยาการเผาผลาญอาหารออกมามาก ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับและหิว
• ความเครียดทำให้การทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้หยุดชะงักลง
• ภาวะความเครียดและความวิตกกังวล จากการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ หรือจากสังคมในการทำงาน เป็นพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ส่งเสริมให้เกิดโรคกระเพาะมากขึ้น

นอกจากความเครียดโดยตรงแล้ว แหล่งที่มายังระบุถึงปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันโรคเครียดลงกระเพาะ ซึ่งอาจเป็นตัวกระตุ้นร่วมด้วย เช่น การมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้อง, การไม่ทานอาหารให้ตรงเวลา, การทานอาหารรสจัด, การทานของมัน ของทอด, การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์, และการนอนไม่หลับ. การจัดการความเครียดจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและรักษาภาวะเครียดลงกระเพาะ.

ความเครียดส่งผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง?

• ส่งผลให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติไปด้วย
• กระตุ้นให้ต่อมหมวกไตหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีน
• ต่อมไทรอยด์หลั่งฮอร์โมนเร่งปฏิกิริยาการเผาผลาญอาหารออกมามาก ทำให้นอนไม่หลับและหิว
• ทำให้การทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้หยุดชะงักลง
• ไม่ได้ส่งผลร้ายต่อจิตใจเพียงอย่างเดียว แต่ยังส่งผลต่อปัญหาสุขภาพกายอีกด้วย ดังนั้นจึงควรหากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด
• มีส่วนกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารให้มากขึ้น
• เป็นหนึ่งใน พฤติกรรมในการดำเนินชีวิต ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคกรดไหลย้อน

ดังนั้น ความเครียดที่สะสมสามารถส่งผลกระทบต่อระบบฮอร์โมน ระบบประสาท ระบบทางเดินอาหาร และอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่างๆ ได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม.

ขมิ้นชันมีสรรพคุณใดต่อโรคกระเพาะ?

• บรรเทาอาการปวดท้อง ท้องอืด แน่นจุกเสียด ขับลม และช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะน้ำมันหอมระเหยในขมิ้นชัน สารที่เรียกว่าเคอร์คูลีนอยด์ในขมิ้นชันก็มีส่วนช่วยในเรื่องนี้
• เป็นสมุนไพรแก้กรดไหลย้อนที่นิยมใช้ เนื่องจากมีสรรพคุณทางยามากมาย เช่น ช่วยบรรเทาอาการโรคลำไส้อักเสบ ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ ช่วยบรรเทาอาการโรคกระเพาะอาหาร กระตุ้นการหลั่งเมือกมาเคลือบกระเพาะอาหาร ยับยั้งการหลั่งน้ำย่อย และช่วยสมานแผล
• มีสารประกอบ เคอร์คูมิน (Curcumin) ที่ช่วย ต้านการอักเสบ และเป็นสาร ต้านอนุมูลอิสระ ที่ดีเยี่ยม
• ตามตำรายาไทย ขมิ้นชันแบบใช้ภายในร่างกายช่วย เจริญอาหาร เป็นยาบำรุงธาตุ แก้ท้องอืดเฟ้อ อาการแน่นหรือจุกเสียดท้อง
• มีการระบุว่าขมิ้นชันสามารถ รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ได้
• กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ใช้ผงขมิ้นชันผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอนรับประทานเพื่อ รักษาอาการท้องเสีย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับอาการของโรคกระเพาะบางชนิด
• มีการวิจัยพบว่า ยาขมิ้นชันขององค์การเภสัชกรรมสามารถรักษาโรคกระเพาะอาหารได้เทียบเท่ายาลดกรดแผนปัจจุบัน
• ช่วย ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ที่ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้

ดังนั้น ขมิ้นชันจึงเป็นสมุนไพรที่มีศักยภาพในการบรรเทาและรักษาอาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคกระเพาะอาหารได้หลายประการ โดยมีสารสำคัญอย่างเคอร์คูมินที่เป็นประโยชน์

ที่มา:

“เครียดลงกระเพาะ” โรคยอดฮิตคนวัยทำงาน – คนคิดมาก
https://medplant.mahidol.ac.th/pubhealth/curcuma.html

Green Curmin:

• ระบุสรรพคุณสำหรับโรคกระเพาะและกรดไหลย้อนโดยตรง Green Curmin ถูกระบุว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาโรคกระเพาะอาหารอักเสบและกรดไหลย้อน
• มีสารเคอร์คูมินอยด์ที่ละลายน้ำได้ดี Green Curmin มีนวัตกรรมที่ทำให้สารเคอร์คูมินอยด์ในขมิ้นชันละลายน้ำได้ถึง 10,000 เท่า ทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ 100% และอาจเห็นผลเร็ว
• ช่วยรักษาที่ต้นเหตุของโรคกระเพาะและกรดไหลย้อน Green Curmin สามารถรักษาโรคกระเพาะและกรดไหลย้อนได้ที่ต้นเหตุ
• มีฤทธิ์ลดการอักเสบ สารเคอร์คูมินในขมิ้นชันมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ซึ่งอาจช่วยลดการอักเสบในกระเพาะอาหารและหลอดอาหารที่เกิดจากภาวะเครียดได้
• ปรับสมดุลลำไส้ Green Curmin ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ซึ่งอาจมีส่วนช่วยในระบบย่อยอาหารที่อาจได้รับผลกระทบจากความเครียด
• มีฤทธิ์สมานแผลในกระเพาะอาหาร ขมิ้นชันมีฤทธิ์สมานแผลในกระเพาะอาหาร โดยเร่งการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อบริเวณที่เป็นแผล และกระตุ้นการหลั่ง mucin มาเคลือบกระเพาะอาหาร ซึ่งอาจช่วยบรรเทาอาการปวดและแสบท้องจากความเครียดได้

Curmamax:

• ระบุสรรพคุณสำหรับกระเพาะอาหารอักเสบและกรดไหลย้อน Curmamax เป็นผลิตภัณฑ์อีกตัวหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับระบบทางเดินอาหาร และเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากระเพาะอาหารอักเสบและกรดไหลย้อน
• เป็นรูปแบบน้ำ ช่วยให้ดูดซึมไว Curmamax เป็นเครื่องดื่มสารสกัดจากขมิ้นชันในรูปแบบน้ำ ซึ่งอาจช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้รวดเร็วขึ้น และอาจช่วยบรรเทาอาการได้ทันที
• มีสารสำคัญจากขมิ้นชัน Curmamax มีสารสำคัญจากขมิ้นชัน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและอาจช่วยดูแลระบบทางเดินอาหาร

กลไกที่อาจเกี่ยวข้องกับ “เครียดลงกระเพาะ”:

• ความเครียดสามารถส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ แสบร้อนกลางอก หรืออาหารไม่ย่อย
• สาร เคอร์คูมิน ในขมิ้นชันมีฤทธิ์ ต้านการอักเสบ ซึ่งอาจช่วยลดการอักเสบของเยื่อบุกระเพาะอาหารและหลอดอาหารที่อาจเกิดขึ้นจากความเครียด
• ขมิ้นชันมีฤทธิ์ สมานแผลในกระเพาะอาหาร และ กระตุ้นการหลั่งสารเคลือบกระเพาะอาหาร (mucin) ซึ่งอาจช่วยปกป้องเยื่อบุกระเพาะอาหารจากภาวะระคายเคืองที่อาจเกิดจากความเครียด
• แม้ว่าจะมีงานวิจัยเกี่ยวกับ curcumin ในหลายภาวะของระบบทางเดินอาหาร เช่น irritable bowel syndromes และ peptic ulcer diseases แต่แนวทางเวชปฏิบัติการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนในประเทศไทย พ.ศ. 2563 ยังไม่แนะนำการใช้ curcumin เป็นข้อบ่งชี้นี้โดยตรง เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาการใช้ curcumin ในการรักษาผู้ป่วยกรดไหลย้อนที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้ PPI อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม อาจพิจารณาใช้ในผู้ป่วยที่มีโรคระบบทางเดินอาหารอื่นร่วมด้วย

ดังนั้น Green Curmin และ Curmamax ซึ่งมีส่วนประกอบหลักจากขมิ้นชันที่มีสารเคอร์คูมิน อาจช่วยบรรเทาอาการ “เครียดลงกระเพาะ” ได้ด้วยฤทธิ์ต้านการอักเสบ สมานแผล และกระตุ้นการหลั่งสารเคลือบกระเพาะอาหาร อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการรุนแรงหรือยาวนาน